2009.01.29 16:26

โดย : เอกรัตน์ สาธุธรรม

ใครๆ ก็ออกมาคอนเฟิร์มว่า ปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกจะเข้าขั้นวิกฤติแบบสุดๆ หากในโลกของอินเทอร์เน็ตหาได้เป็นเช่นนั้นไม่

และบรรทัดต่อจากนี้ คือ แนวโน้มของอินเทอร์เน็ตทั่วโลก และทั่วไทยในปี 2552 นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้คร่ำหวอดในวงการอินเทอร์เน็ตไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดดอทคอม จำกัด ประเมินว่า หากมองสถานการณ์เว็บในไทยปีนี้ ผู้ให้บริการเว็บหลักๆ จะเหลือเพียงไม่กี่ราย และปีถัดไปโอกาสที่จะเห็นเว็บไซต์ไทยใหญ่ๆ เกิดขึ้นคงเป็นเรื่อง "ยาก" ทั้งนี้ เพราะปัจจัยต่างๆ ที่เป็นตัวแปร เช่น หลายเว็บเริ่มเปลี่ยนรูปแบบจากพอร์ทัลไปสู่โซเชียลมากขึ้น คนธรรมดากลายเป็นเจ้าของเว็บบล็อก (Blog) มากขึ้น ทำให้การเข้าถึงหรือการสร้างเว็บขนาดใหญ่มีให้เห็นน้อยลง

เว็บตปท.ทรงอิทธิพล

 ขณะเดียวกันจะเริ่มเห็นการเข้ามาของเว็บไซต์ต่างประเทศที่เริ่มพากันแปลง ร่าง แปลภาษา มีเว็บไซต์เวอร์ชั่นภาษาไทยกันมากขึ้น ที่เห็นชัดๆ ได้แก่ เฟซบุ๊ค,เฟรนด์สเตอร์ (Friendster) หรือแม้แต่บริการอื่นๆ ของกูเกิล

นี่จึงเป็นอีกเทรนด์ของวงการอินเทอร์เน็ตไทย ที่เว็บต่างประเทศจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น (เดิมก็มากอยู่แล้ว) และรูปแบบของผู้ให้บริการจะเหลือหลักๆ ไม่กี่ราย เช่น ฝากวิดีโอกับ Youtube.com, ฝากภาพไว้กับ Flickr.com หรือ Multiply.com, ใช้อีเมลที่ Hotmail.com หรือ Gmail.com, เขียนบล็อกกับ blogger.com หรือ wordpress.com

ส่วนเว็บไซต์ในไทยจะเริ่มเข้าสู่การแข่งขันในรูปแบบของการแข่งขันในตลาด เฉพาะ (Vertical or Niche Market) กันมากขึ้น เช่น siambrandname.com, blognone.com เป็นต้น

กูรูด้านอินเทอร์เน็ตหลายๆ คนให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เมื่อความเร็วอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น เนื้อหาข้อมูลจากเดิมที่เป็นตัวหนังสือ นับจากนี้จะได้เห็นหลายๆ เว็บเลือกที่จะเปลี่ยนรูปแบบของข้อมูลเป็น "ภาพวิดีโอ" เพราะด้วยการสร้างไฟล์วิดีโอทำได้ไม่ยาก สามารถสร้างได้จากโทรศัพท์มือถือ และอัพโหลดไปเก็บไว้ได้ง่ายๆ ผ่านผู้ให้บริการมากมายหลายแหล่ง ทำให้ข้อมูลรูปแบบวิดีโอนี้เราจะได้เห็นกันแบบถี่ขึ้นๆ ปีที่ผ่านมา โซเชียล เน็ตเวิร์ค มีบทบาทกับชีวิตประจำวันหลายๆ คน แต่ปีนี้จะเริ่มเข้ามามีบทบาท และมี "อิทธิพล" ต่อชีวิตคนที่ออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ hi5.com, facebook.com จะเริ่มเห็นการอ้างอิงแหล่งข้อมูลจากเว็บประเภทโซเชียล หรือบล็อกมากขึ้น

อีกทั้งปีนี้จะเป็นปีที่การค้าขายออนไลน์ เริ่มไหลจากเว็บค้าขายทั่วไป ลงมาสู่โซเชียล เน็ตเวิร์ค (อีกแล้ว) เพราะโลกของที่นี่ทำให้คุณมีพลัง และความสามารถควบคุมข้อมูลทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ แน่นอนว่าเราจะเริ่มเห็นการค้าขายผ่านโลกของโซเชียลมากขึ้นกว่าเดิม

ใช้ไอดีเดียวกันได้ทุกเว็บ

 อีกเทรนด์ ที่กำลังเกิดขึ้น และจะเกิดอย่างรวดเร็ว คือ การให้บริการแบบยูสเซอร์เนม พาสเวิร์ดอันเดียว จะเริ่มมีบทบาทการเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ มากขึ้นในปีนี้ เพราะด้วยมาตรฐานของโอเพ่น ไอดี (www.openid.net) จะทำให้เราสามารถเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ โดยใช้ยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ดของเว็บที่คุณใช้เป็นประจำอยู่แล้วได้เลย เช่นใช้ยูสเซอร์ของ Yahoo.com หรือของ WordPress.com เป็นต้น แนวโน้มของซอฟต์แวร์หลายๆ ตัวที่กำลังเปลี่ยนทางมุ่งไปสู่เว็บแอพพลิเคชั่น (Web Application) ซึ่งจะดันให้ "เบราเซอร์" กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการเข้าสู่บริการต่างๆ เหล่านี้ และด้วยรูปแบบของเว็บไซต์หลายแห่งเริ่มเปลี่ยนการให้บริการเป็นรูปแบบบริการ ซอฟต์แวร์ หรือ SaaS (software as a service) เช่น photoshop.com บริการแต่งภาพทางออนไลน์ของอะโดบี้ หรือ google docs บริการซอฟต์แวร์สเปรดชีตออนไลน์ของค่ายกูเกิล จึงเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย

ปีที่ผ่านมา หลายคนพูดถึง การเก็บข้อมูลและประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ (Cloud Computing) กันมาก ปีนี้จะเป็นปีที่แนวคิดนี้ได้รับการสานต่อ เพราะการเก็บข้อมูล และการคำนวนการทำงานของระบบอินเทอร์เน็ตจะเปลี่ยนไป โดยจะถูกเก็บรวมไว้ที่ผู้ให้บริการแค่ไม่กี่ราย ข้อมูลและการทำงานทั้งหมดจะทำงานในรูปแบบประมวลผลแบบกลุ่มเมฆ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงได้จำนวนมาก ปัจจุบันผู้ให้บริการคลาว คอมพิวติ้งใหญ่ๆ ในโลกนี้ได้แก่ Amazon EC2(Amazon Elastic Compute Cloud), กูเกิล แอพ เอ็นจิ้น เป็นต้น

มือถือท่องเน็ตแรงรับ3จี

และ "ตัวเอก" แห่งโลกเทคโนโลยีที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เห็นจะเป็น "โทรศัพท์มือถือ" ปีนี้จะเป็นปีที่มือถือกับอินเทอร์เน็ต "คู่กัน" คนใช้มือถือเชื่อมเน็ตมากขึ้น ราคาเน็ตผ่านมือถือจะถูกลง โปรแกรม-แอพพลิเคชั่น รวมถึงเนื้อหา (Content) จะมีมากขึ้น ความเร็วการเข้าถึงเน็ตผ่านมือถือจะเร็วกว่าที่เราเคยรู้จัก โดยเฉพาะอานิสงส์จากการเปิดให้บริการ 3จี หรือไวแม็กซ์

ทั้งหมดนี้จะทำให้ อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือเริ่มกลับมาฮิตกันจริงๆ จังๆ (หลังจากที่โดนหลอกกันมาเมื่อ 2-3 ปีก่อน) ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามือถือที่เริ่มออกมากันมาในช่วงนี้จะมีความสามารถเข้าถึง อินเทอร์เน็ตได้ดีขึ้น

จากความเคลื่อนไหวของเว็บไซต์ชั้นนำอย่างสนุกดอทคอม (www.sanook.com ) ที่วันนี้ผู้บริหารอย่าง "นายต่อบุญ พ่วงมหา" เปิดเผยว่า ปีนี้จะเห็นคอนเท้นท์ของสนุกบนเว็บ ไหลเข้ามือถือมากขึ้น ถึงขั้นทำเว็บเฉพาะรองรับคอนเท้นท์บนมือถือกันเลยทีเดียว นั่น คือ http://m.sanook.com ผู้บริหารเว็บสนุก บอกว่า พอร์ทัลนี้ ไม่ได้มองว่าจะอยู่บนโมบาย หรือเว็บเบส แต่มองที่ความต้องการคอนซูมเมอร์เป็นหลัก ซึ่งปกติการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตบนมือถือ ทำได้ทุกค่ายอยู่แล้ว แต่จุดที่จะเปลี่ยน คือ สปีดความเร็ว ถ้า 3จี มาอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือจะเร็วขึ้น คอนเท้นท์ประเภทมิวสิค วีดีโอ คลิปจะได้คุณภาพมากขึ้น โดยที่คนจะไม่ต้องกลับไปเรียกใช้พีซีอีก

ทั้งหมด นี้เป็นสิ่งที่มั่นใจได้เลยว่า คุณจะเห็นแนวโน้มของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในรูปแบบข้างต้นตลอดปี 2552 นี้ ซึ่งหลายๆ อย่างจะกลายเป็นบริการที่คุณกำลังจะเริ่มคุ้นเคยในไม่ช้า ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ต้องการตกยุค หรือกำลังมองว่า จะปรับตัวเองหรือธุรกิจเข้าสู่เทคโนโลยีปีนี้อย่างไร ลองวิเคราะห์ ประเมินเทรนด์เด่นๆ ข้างต้นและนำไปประยุกต์ดู……