สรุปข่าวดิจิทัลประจำสัปดาห์: นักกฎหมายเตือนแพร่ข้อมูลระเบิดราชประสงค์เท็จอาจผิด พ.ร.บ.คอมฯ/ ห้ามใช้ไลน์-ข้อความ-คลิป ในลักษณะยุั่วยุรณรงค์รัฐธรรมนูญ อาจผิดคำสั่ง คสช./ พรชัย รุจิประภา พ้นตำแหน่ง รมว.ไอซีที/ รมว.ไอซีทีคนใหม่เดินหน้านโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ/ เฟซบุ๊กเตรียมเปิดสำนักงานในไทย/ กสทช. สั่งเพิ่มสัญญาณ’มือถือ-เน็ต’ ตลอดเส้นทางปั่นเพื่อแม่-เห็นชอบกฎเกณฑ์การประมูลความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ ยกเลิกกฎเพดานการถือครองคลื่น ร่วมมือหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมกัมพูชา แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ฯลฯ
นักกฎหมายเตือนแพร่ข้อมูลระเบิดราชประสงค์เท็จอาจผิด พ.ร.บ.คอมฯ (18 ส.ค.58)
16 สิงหาคม 2558
กสทช. สั่งเพิ่มสัญญาณ’มือถือ-เน็ต’ ตลอดเส้นทางปั่นเพื่อแม่
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผย กสทช.ได้ประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ ให้ให้เพิ่มสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตลอดเส้นทางการปั่นจักรยานในโครงการ “Bike for Mom ปั่นเพื่อแม่” ในวันที่ 16 ส.ค. นี้ โดยผู้ประกอบการแต่ละรายได้ติดตั้งสถานีฐานเพิ่มขึ้นบริษัทละ 22 สถานี รวม 66 สถานี เพื่อให้รองรับความต้องการใช้บริการของประชาชนที่คาดว่าจะมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก
ที่มา: เดลินิวส์
17 สิงหาคม 2558
Uber ให้นั่งฟรี สำหรับผู้ต้องการบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทย หลังเหตุระเบิดแยกราชประสงค์
Uber ออกมาแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา และประกาศผ่านเว็บไซต์ว่า จะไม่คิดค่าบริการสำหรับผู้ที่ใช้บริการ UberX และ UberBLACK เพื่อเดินทางไปบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่ 23 ส.ค. 2558
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ Uber
ไปรษณีย์ไทยคาดรักษากำไรไว้ได้ ด้วยแรงหนุนอีคอมเมิร์ซ เตรียมแก้ไขปัญหาพัสดุเสียหาย
ปิยะวัฒน์ มหาเปารยะ รักษาการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เผยว่า การที่ตลาดการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) ในไทยเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 20 ได้ช่วยกระตุ้นความต้องการใช้บริการส่งพัสดุภัณฑ์ของบริษัทเพิ่มขึ้น รวมถึงตลาดขนส่งไปรษณีย์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาก็ยังเติบโตเพิ่มขึ้นด้วย โดยเฉพาะที่ ปจ.สระแก้ว ปณ.อรัญประเทศ ปณ.ตลาดโรงเกลือ และแม้ว่าเศรษฐกิจจะอยู่ในช่วงขาลง แต่บริษัทก็คาดการณ์ว่าจะรักษากำไรร้อยละ 10 ไว้ได้โดยอาศัยกำไรจากบริการดังกล่าว อนึ่ง ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยประสบปัญหาทำพัสดุเสียหายหรือสูญหายจำนวนมาก ไปรษณีย์ไทยหวังที่จะทำให้ปัญหาดังกล่าวหมดไปภายในไม่อีกกี่ปีข้างหน้า ซึ่งหนึ่งในวิธีการจัดการกับปัญหาดังกล่าวคือการเตรียมติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ที่ไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ
ที่มา: Bangkok Post, เดลินิวส์
18 สิงหาคม 2558
กระทรวงไอซีทีคุมเข้มการนำเสนอข้อมูล-รูปภาพบนเว็บไซต์ หลังเหตุระเบิดราชประสงค์ กันประชาชนตื่นตระหนก
พรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) สั่งการเป็นการเร่งด่วนให้ทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงไอซีที และน.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงไอซีทีติดตามเฝ้าระวังควบคุมการนำเสนอของเว็บไซต์ที่มีภาพข่าว รูปภาพ และข้อความต่างๆ จากกรณีเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไม่ให้สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน
ที่มา: เดลินิวส์
นักกฎหมายเตือนผู้ใช้โซเชียลมีเดียรับส่งข่าวสารอย่างมีสติ แพร่ข่าวเท็จอาจผิด พ.ร.บ.คอมฯ
ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ดูแลเว็บไทยเตือนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตให้รับส่งข่าวสารกรณีเหตุวางระเบิดที่แยกราชประสงค์เมื่อวันจันทร์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมาอย่างรอบคอบ เพราะหากรีทวีตหรือโพสต์ข่าวเท็จที่ทำให้ผู้อ่านเข้าใจผิด อาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 รวมถึงอาจมีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญาภาค 3 ลหุโทษ มาตรา 384 การนำส่งต่อภาพผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาพที่มีลักษณะโหดร้าย อุจาด และมีลักษณะอนาจารที่สร้างรู้สึกสะเทือนใจต่อผู้อ่านในโซเชียลมีเดียยังผิดจริยธรรมในการนำเสนอข่าวอาชญากรรมอีกด้วย อนึ่ง หลังเกิดเหตุระเบิดดังกล่าว ในโซเชียลมีเดียมีการนำภาพผู้ต้องสงสัยซึ่งถูกบันทึกได้ด้วยกล้องวงจรปิดมาวิพากษ์วิจารณ์และเปรียบเทียบกับบุคคลต่างๆ อย่างกว้างขวาง หนึ่งในบุคคลที่ถูกนำภาพไปเปรียบเทียบได้แก่ ซันนี่ เบิร์นส์ ครูสอนภาษาอังกฤษ ชาวออสเตรเลีย และรังสิมันต์ โรม สมาชิกกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งรังสิมันต์เผยว่าตนกำลังรวบรวมหลักฐานและอาจฟ้องดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าว
ด้านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขอความร่วมมือผู้ใช้โซเชียลมีเดียนำเสนอข่าวเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างที่การสืบสวนสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ เพราะอาจเป็นการชี้นำต่อรูปคดี และทำให้สังคมสับสนได้
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, ประชาไท
กสทช.กำชับทีวี ไม่ให้เสนอเนื้อหาที่มีความรุนแรง
สมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า กสทช.เตรียมทำหนังสือถึงสถานีโทรทัศน์ทุกช่องเพื่อกำชับเกี่ยวกับการนำเสนอเนื้อหารายการและข่าวไม่ให้นำเสนอเนื้อหาที่เข้าข่ายความรุนแรงและไม่เหมาะสม แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องเซ็นเซอร์หรือใช้ภาพประกอบ ดังที่ระบุอยู่ในเงื่อนไขการออกอากาศตามใบอนุญาตประกอบกิจการและกฏหมายของกสทช. พร้อมย้ำให้สถานีโทรทัศน์ให้ความร่วมมือการถ่ายทอดตามที่ คสช.ร้องขอ
ที่มา: เดลินิวส์
19 สิงหาคม 2558
เปลี่ยนตัว รมว.ไอซีที พรชัย รุจิประภา พ้นตำแหน่ง
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี โดยให้พรชัย รุจิประภา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พร้อมรัฐมนตรีคนอื่นๆ อีก 19 คน รวมทั้ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี กระทรวงไอซีทีมีนายอุตตม สาวนายน เข้าดำรงตำแหน่งแทน
ที่มา: มติชนออนไลน์
กสท ร่วมมือบริษัทเอกชนพัฒนาระบบติดตามการเดินเรือ
บริษัท กสท โทรคมนาคม ร่วมกับบริษัท เอ็กซ์เซ้นส์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส พัฒนาโครงข่ายดาวเทียมเพื่อให้บริการระบบติดตามเรือประมงโดยผ่านวงจรเชื่อมโยงไอพี เน็ตเวิร์ค (IP Network) และระบบคลาวด์ (Cloud) รวมถึงพัฒนาโครงข่ายดาวเทียมของ กสท ให้เป็นเกตเวย์สำหรับบริการระบบติดตามเรือผ่านดาวเทียมในภูมิภาค ระบบนี้จะใช้งานอยู่บนโครงข่ายของ กสท ทั้งหมด โดยข้อมูลเรือจะถูกเก็บไว้ที่ศูนย์ข้อมูลของ กสท ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม และเป็นการยกระดับมาตรฐานการประมงของไทยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล
ที่มา: เดลินิวส์
21 สิงหาคม 2558
สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ร่วมมือ รพ.รามาธิบดี เปิดตัวแอปดูนัดหมายของผู้ป่วย
โรงพยาบาลรามาธิบดีร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (สรอ.) เปิดตัวแอปบนโทรศัพท์มือถือที่ชื่อ Rama Appointment ซึ่งจะเป็นช่องทางให้ผู้ป่วยของโรงพยาบาลรามาธิบดีสามารถลงทะเบียนเพื่อดูนัดหมายของตนได้ โดยสามารถตรวจดูได้ว่าตนมีนัดกับแผนกใดบ้าง เมื่อใด รวมทั้งสามารถเลื่อนนัดผ่านทางแอปได้ ข้อมูลของโรงพยาบาลจะเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองโดยใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อ นามสกุล และชื่อบิดามารดาในการยืนยันตัว ทั้งนี้ แอปยังไม่เปิดบริการรับนัดคนไข้ใหม่ แอปดังกล่าวมีทั้งในระบบ iOS และแอนดรอยด์
ที่มา: Blognone
กสทช. เห็นชอบกฎเกณฑ์การประมูลความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ ยกเลิกกฎเพดานการถือครองคลื่น
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เห็นชอบ “หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคม ย่าน 1800 เมกะเฮิร์ตซ์” แล้ว โดยจะประกาศลงราชกิจจานุเบกษาต่อไป
ขั้นตอนต่อไปของการประมูลความถี่ย่านดังกล่าวคือ กสทช. จะประกาศเชิญชวนเข้าร่วมประมูลในวันที่ 28 ส.ค. และเริ่มเปิดรับซองวันที่ 30 ก.ย. คลิกดูสาระสำคัญของหลักเกณฑ์การประมูล
ที่มา: Blognone
24 สิงหาคม 2558
เว็บไซต์ราชการไทยโดนแฮกเกอร์ตูนีเซียโจมตี ThaiCERT รายงานเพิ่ม เว็บไทย 106 เว็บเคยโดนโจมตีมาแล้ว
เว็บไซต์ส่วนราชการในไทยอย่างน้อย 3 แห่ง ได้แก่ เว็บไซต์จังหวัดลำพูน เว็บไซต์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา ถูกแฮกเกอร์กลุ่ม “Fallaga Team” จากตูนิเซียโจมตีเว็บไซต์หน้าแรก (home page) นอกจากนั้นเว็บไซต์ของจังหวัดตาก จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดสระแก้วยังไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าถูกแฮคโดย Fallaga Team ด้วยหรือไม่ ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ThaiCERT) ได้เผยแพร่รายละเอียดของการแฮ็กครั้งนี้ โดยระบุว่าจากการรวบรวมข้อมูลย้อนไปถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2558 พบว่ามีเว็บไซต์ในไทยโดนโจมตีจาก Fallaga Team จำนวน 106 เว็บ รูปแบบการโจมตีเว็บไซต์หน่วยงานรัฐคล้ายกันคือ เปลี่ยนหน้าแรกของเว็บ (web defacement)
กสทช. ร่วมมือหน่วยงานกำกับดูแลโทรคมนาคมกัมพูชา แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน
พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี ประธาน กสทช.เผยว่า หลังจากที่กสทช.ได้เข้าหารือร่วมกับหัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลแห่งราชอาณาจักรแห่งกัมพูชา (Telecommunication Regulator of Cambodia – TRC) เมื่อวันที่19-20 ก.พ. 58 ที่ผ่านมา ทั้งสองหน่วยงานมีความเห็นร่วมกันที่จะลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกัน โดยจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านโทรคมนาคมและการบริหารความถี่วิทยุ รวมทั้งแลกเปลี่ยนบุคลากร ทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะ
ที่มา: เดลินิวส์
เอไอเอสแจ้งสิ้นสุดการให้บริการเครือข่าย 2 จี ทีโอทียืนยันเปิดให้บริการต่อ
เอไอเอสออกประกาศสิ้นสุดการให้บริการเครือข่าย AIS 2G (GSM Advance และ 1-2-Call 2G) บนคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งจะหมดอายุตามสัญญาสัมปทานกับทีโอทีในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยหลังจากวันที่ 30 กันยายน ผู้ใช้บริการจะมีเวลาย้ายออกจาก AIS 2G ไปเครือข่ายอื่นหรืออัพเกรดเป็น AIS 3G 2100 ในระยะเวลา 30 วันนับจากวันที่สิ้นสุดการให้บริการ ก่อนที่คลื่น 900 เมกะเฮิร์ตซ์จะถูกส่งกลับ กสทช. เพื่อนำไปประมูลใหม่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ อนึ่ง ทางทีโอทีได้ออกประกาศซ้อนหนึ่งฉบับหลังจากเอไอเอสออกประกาศได้ไม่กี่ชั่วโมง โดยระบุว่าลูกค้า AIS 2G จะยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องดำเนินการอะไรทั้งสิ้น
ที่มา: Blognone
ศาลรับฟ้องคดีบริษัทเนเชอรัล ฟรุต ฟ้องหมิ่นประมาทอานดี้ ฮอลล์ ด้วย พ.ร.บ.คอมฯ
ศาลอาญากรุงเทพใต้รับฟ้องคดีที่บริษัทเนเชอรัล ฟรุต ผู้ส่งออกสับปะรดกระป๋องในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นโจทก์ฟ้องอานดี้ ฮอลล์ นักกิจกรรมสิทธิแรงงานข้ามชาติชาวอังกฤษ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาตามประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากการเผยแพร่รายงาน “Cheap has a High Price” (สินค้าถูกมีราคาที่ต้องจ่ายสูง) ซึ่งอานดี้ ฮอลล์ เป็นผู้ช่วยวิจัย ลงในเว็บไซต์ Finnwatch ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในฟินแลนด์ โดยรายงานดังกล่าวเป็นงานวิจัยเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมส่งออกในประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตทูน่าและสับปะรดกระป๋อง ศาลนัดสอบคำให้การในวันที่ 19 ต.ค.นี้ อนึ่ง ในการพิจารณาคดีได้มีตัวแทนจากคณะผู้แทนสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และเนเธอร์แลนด์ร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ที่มา: ประชาไท
26 สิงหาคม 2558
รมว.ไอซีทีเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ เผยนายกสั่งแก้ปัญหาเว็บไซต์ไม่เหมาะสม
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เผย หลังได้รับตำแหน่งว่า ยืนยันเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ และได้สั่งการให้ภายใน 1 เดือน หน่วยงานในสังกัดจะต้องส่งแผนการดำเนินงานมาให้ อุตตมเผยด้วยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ดูแลปัญหาเว็บไซต์ไม่เหมาะสม โดยได้กำชับให้กระทรวงไอซีทีประสานกับหน่วยงานมั่นคงต่างๆ เพื่อดูแลและป้องกันเป็นพิเศษ
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ สิทธิชัย โภไคยอุดม ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจได้ออกมาแสดงความเห็นว่า นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาลอาจส่อแววล่มแล้วหลังการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐมนตรีชุดใหญ่เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยคณะทำงานเตรียมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมที่ตั้งขึ้นมาชั่วคราวคงจะไม่มีการประชุมอีกต่อไป และคาดว่าคณะทำงานฯ จะพากันลาออกเนื่องจากไม่มั่นใจว่านโยบายเดิมจะเป็นแนวคิดที่ไปในทิศทางเดียวกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หรือไม่ รวมทั้งโครงการ 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ บรอดแบนด์แห่งชาติ แผนสร้างศูนย์ข้อมูลในประเทศ แผนส่งเสริมเนื้อหาดิจิทัล คณะกรรมการติดตามกฏหมายดิจิทัล และคณะกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตก็คาดว่าจะถูกพับทั้งหมด
ที่มา: เดลินิวส์, ผู้จัดการออนไลน์
เฟซบุ๊กเตรียมเปิดสำนักงานในไทย
เดลินิวส์รายงานว่า จากที่มีข่าวว่าเฟซบุ๊กจะเปิดสำนักงานในประเทศไทย โดยส่งจดหมายเชิญให้นักข่าวไปร่วมงานในวันที่17 ก.ย. 58 นั้น คาดว่าในวันดังกล่าว เฟซบุ๊กจะเชิญกลุ่มพาร์ทเนอร์ลูกค้าธุรกิจในประเทศไทยก่อน ส่วนบัตรเชิญสำหรับสื่อมวลชนกำลังรอการยืนยันจากสำนักงานใหญ่อีกครั้ง ส่วนสถานที่ตั้งสำนักงานในไทยยังปิดเป็นความลับ ก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กได้ประกาศรับสมัครงานตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานในประเทศไทยที่มีความเชี่ยวชาญด้านการตลาด การโฆษณาออนไลน์ไปแล้ว
ที่มา: เดลินิวส์
อัยการศาลทหารสั่งฟ้อง ‘รินดา’ ม.116 กรณีโพสต์ประยุทธ์โอนเงินหมื่นล้าน
อัยการศาลทหารมีคำสั่งฟ้องรินดา ปฤชาบุตร ผู้ต้องหากรณีโพสต์สเตตัสเฟซบุ๊กว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และภรรยาได้โอนเงินหมื่นล้านบาทไปธนาคารในสิงคโปร์ โดยอัยการสั่งฟ้องข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ฐานกระทำให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ประมวลกฎหมายอาญา ม.384 แกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ และข้อหาตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ม.14 ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ศาลทหารกรุงเทพมีคำสั่งให้ปล่อยตัวนางรินดาโดยใช้หลักประกันเดิม คือวางเงินสดประกัน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามไม่ให้ผู้ต้องหากระทำการยุยงปลุกปั่น เคลื่อนไหว หรือแสดงความเห็นทางการเมือง และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ คาดว่า รินดาจะถูกปล่อยตัวที่ทัณฑสถานหญิงกลางในช่วงค่ำของวันนี้
ที่มา: ประชาไท
กสท.ส่งหนังสือเตือนวอยซ์ทีวี-1TV เนื้อหาขัดประกาศ คสช.-ช่อง 7 ขัดมาตรา 37
ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 26/2558 พิจารณาการนำเสนอเนื้อหาของช่องทีวีและลงมติเห็นว่า การนำเสนอเนื้อหาของรายการ “เส้นผมบังภูเขา” และรายการ “แฉกระจาย” ทางช่อง 1TV มีเนื้อหาขัดต่อประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 และประกาศ คสช.ฉบับที่ 103 จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งเตือนบริษัทพีแอนด์พีชาแนลในกรณีดังกล่าว ที่ประชุมยังได้พิจารณาการออกอากาศรายการ “Tonight Thailand” ช่องว็อยซ์ ทีวี โดยรายการวันดังกล่าวเสนอเนื้อหาการนำมาตรา 116 ของรัฐธรมนูญกับศาลทหาร โดยคณะกรรมการเสียงข้างมากเห็นว่าการออกอากาศรายการดังกล่าวมีเนื้อหาขัดต่อประกาศ คสช.ฉบับที่ 97/2557 และประกาศคสช.ฉบับที่ 103 จึงมีมติให้สำนักงานฯ ทำหนังสือเตือนไปยังสถานีวอยซ์ทีวี ส่วนรายการ “สนามข่าวเจ็ดสี” ทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ที่เผยแพร่คลิปโยนแมวที่มีชีวิตให้จระเข้กินมีเนื้อหาไม่เหมาะสม ขัดต่อมาตรา 37 ของ พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551 จึงมีมติให้มีคำสั่งทางปกครองเตือนให้สถานีปรับปรุงการออกอากาศรายการ
ที่มา: ประชาไท
27 สิงหาคม 2558
สพธอ.เผยความคืบหน้าการทำเว็บไซต์-อีเมลภาษาไทย
วรรณวิทย์ อาขุบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทาง (สพธอ.) เผยความคืบหน้าการจัดทำโดเมนเนมและอีเมลภาษาไทยว่า ขณะนี้ สพธอ.กำลังจัดทำร่างระเบียบเพื่อจัดสรรและบริหารการจดทะเบียนโดเมนเนมเป็นภาษาท้องถิ่น และยังต้องหาข้อสรุปเกี่ยวกับตัวอักษรที่อนุญาตให้ใช้งานและตัวอักษรที่ห้ามใช้งาน คำที่ห้ามใช้ ลิขสิทธิ์ของชื่อที่จะใช้ รวมทั้งลำดับการพิมพ์ตัวอักษรและพยัญชนะในแต่ละคำ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 6 เดือน ส่วนปลายปีนี้จะมีการเปิดใช้ชื่ออีเมลที่พิมพ์ด้วยภาษาไทย ซึ่งอาจเริ่มใช้ในหน่วยงานการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรเพราะเป็นหน่วยงานที่ต้องติดต่อสื่อสารกับประชาชนมากที่สุด อนึ่ง โดเมนเนมที่ใช้ภาษาไทยขณะนี้เริ่มมีการใช้งานแล้ว เช่น ไปรษณีย์ไทย แต่ยังไม่เป็นที่แพร่หลายและยังต้องประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
ที่มา: เดลินิวส์
กสทช. ระดมความเห็นแผนยุทธศาสตร์จัดสรรเงินกองทุน กทปส.
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จัดประชุมกลุ่มย่อยระดมความคิดเห็นจัดทำแผนยุทธศาสตร์ การจัดสรรเงินกองทุนกองทุนวิจัยและพัฒนาในกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ประจำปี 2558 โดยมีกลุ่มสมาคม มูลนิธิ หน่วยงานภาครัฐ สถานศึกษา และผู้ประกอบการกว่า 100 คนเข้าร่วมให้ความเห็น
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
ห้ามใช้ไลน์-ข้อความ-คลิป ในลักษณะยุั่วยุรณรงค์รัฐธรรมนูญ อาจผิดคำสั่ง คสช.
วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านกฎหมาย กล่าวถึงผลการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมไม่สนับสนุนให้และห้ามไม่ให้มีการปลุกระดมการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เพราะอาจเข้าข่ายผิดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยการส่งไลน์ เอสเอ็มเอส คลิป ในลักษณะยั่วยุ ปลุกระดม ใช้คำพูดหยาบคาย รุนแรง ข่มขู่ ก้าวร้าว ทำไม่ได้และผิดกฎหมาย และ “ถ้าจับได้ก็จับ” แต่ต้องดูว่าเป็นการปลุกระดมยั่วยุให้เกิดความแตกแยกหรือไม่ ถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นธรรมดาอาจไม่เป็นไร การร่วมรายการโทรทัศน์แสดงความเห็นนั้นสามารถทำได้
ที่มา: มติชนออนไลน์