Thai Netizen Network

นักวิชาการทั่วโลกลงชื่อเรียกร้องปฏิรูป กม.หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

(4 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00น. ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเืทศประจำประเทศไทย ธงชัย วินิจจะกูล นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน และแอนดรูว์ วอล์กเกอร์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยระบุว่า นักวิชาการและบุคคลสำคัญทั่วโลกกว่า 50 คน ร่วมลงนามในจดหมายเพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรีของไทย เพื่อเรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ จดหมายฉบับนี้มีขึ้นหลังจากเกิดกรณีฟ้องร้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพติดต่อกันหลายคดีในประเทศไทย รวมทั้งความเคลื่อนไหวของรัฐบาลไทยที่ต้องการเข้าไปควบคุมและสั่งห้ามการถกเถียงเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ในอินเทอร์เน็ต

โดยจดหมายฉบับนี้ขอให้รัฐบาลไทยพิจารณาข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้:

  1. โปรดยุติการพยายามสร้างมาตรการกดดันปราบปรามที่เข้มงวดยิ่งกว่านี้ ทั้งต่อปัจเจกบุคคล เว็บไซต์และการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ

  2. โปรดพิจารณาข้อเสนอแนะที่เรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ตกเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งคุกคามผู้อื่น และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายด่างพร้อยต่อชื่อเสียงของประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์บนเวทีสากลยิ่งไปกว่านี้

  3. โปรดพิจารณายกเลิก-ถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่กำลังดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และดำเนินการเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องโทษที่ถูกตัดสินภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก่อนหน้านี้ เนื่องจากคนเหล่านี้ตกเป็นผู้ต้องหาเพียงเพราะการแสดงความคิดเห็น ทั้ง ๆ ที่การแสดงความคิดเห็นไม่ควรเป็นอาชญากรรม

จดหมายฉบับนี้ยังกล่าวด้วยว่า “การใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกันอย่างพร่ำเพรื่อ รังแต่จะบ่อนทำลายกระบวนการประชาธิปไตย” อีกทั้งยังยั่วยุให้เกิด “กระแสวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์และประเทศไทย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ”

ผู้ลงนามในจดหมายฉบับนี้มีอาทิ:

โดยขณะนี้กำลังมีการรวบรวมรายชื่อเพิ่มเติม จดหมายเปิดผนึกจะยื่นต่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ผู้มีความประสงค์จะร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึก สามารถส่งชื่อ, ยศ/ตำแหน่ง/งาน และสังกัด มาที่ “ผู้ประสานงาน” คนใดคนหนึ่งดังต่อไปนี้

Andrew Walker, Senior Fellow, Research School of Pacific and Asian Studies, The Australian National University, Canberra, ACT 0200, Australia. andrew.walker@anu.edu.au

Jim Glassman, Associate Professor, Department of Geography, University of British Columbia, 217 – 1984 West Mall, Vancouver, BC V6T 1Z2 Canada. nmsslg@yahoo.ca

Larry Lohmann, The Corner House, Station Road, Sturminster Newton, Dorset DT10 1YJ, United Kingdom. larrylohmann@gn.apc.org

Thongchai Winichakul, Professor, Department of History, University of Wisconsin-Madison, Madison, Wisconsin 53706, USA. twinicha@wisc.edu

Adadol Ingawanij, Post-doctoral Researcher, Centre for Research and Education in Arts and Media, University of Westminster, Harrow Campus, UK. M.Ingawanij@westminster.ac.uk

เว็บไซต์ New Mandala http://rspas.anu.edu.au/rmap/newmandala จะเป็น “หน้าต่าง” ให้แก่การรณรงค์ครั้งนี้ และจะนำเสนอข่าวสารและข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับความคืบหน้าของการรณรงค์เป็นระยะ ๆ

(จดหมายเปิดผนึกที่จะยื่นในเดือนมีนาคม/เมษายน 2552)

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สำนักนายกรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล
กรุงเทพฯ ประเทศไทย โทรสาร: 011-662-629-8213

เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ในฐานะนักวิชาการและผู้สังเกตการณ์ที่สนใจในสถานการณ์ของประเทศไทย เรามีความวิตกอย่างยิ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อชาวไทยและชาวต่างประเทศภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่เกิดขึ้นในระยะไม่นานมานี้ เป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่งที่วิกฤตการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยนำไปสู่ความเสื่อมถอยลงของสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน

การใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นเครื่องมือทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองกันอย่างพร่ำเพรื่อ รังแต่จะบ่อนทำลายกระบวนการประชาธิปไตย การดำเนินคดีต่อนักหนังสือพิมพ์ นักวิชาการและประชาชนทั่วไป เพียงเพราะข้อกล่าวหาว่าทัศนะและการกระทำของคนเหล่านี้เป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เท่ากับทำลายบรรยากาศการถกเถียงอย่างเปิดกว้างในประเด็นสาธารณะที่สำคัญ ๆ นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นอันตรายของการอ้างความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์อย่างไม่ระมัดระวัง แทนที่คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะเป็นไปเพื่อปกป้องพระเกียรติยศ กลับยิ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์และประเทศไทย ทั้งภายในและภายนอกประเทศ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้มีข้อเสนอแนะมาหลายครั้งแล้วว่า ควรมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แม้แต่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็เคยมีพระราชดำรัสว่า การวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ เรามีความวิตกว่า แทนที่จะรับฟังความคิดเห็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์ รัฐบาลของท่านอาจใช้กฎหมายนี้เพื่อกดดันยับยั้งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน กระทั่งมีสมาชิกบางคนในรัฐบาลของท่านออกมาเรียกร้องให้ใช้บทลงโทษที่หนักกว่าเดิมภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยทั้งหมดนี้กระทำลงไปในนามของการปกป้องสถาบันกษัตริย์

ประสบการณ์ในหลาย ๆ ประเทศพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มีแต่ความจริง ความโปร่งใส การถกเถียงอย่างเปิดกว้างของสาธารณชน และกระบวนการประชาธิปไตยเท่านั้น จึงจะสามารถแปรเปลี่ยนความขัดแย้งทางความคิดให้กลายเป็นความเปลี่ยนแปลงอย่างสร้างสรรค์และสันติวิธี การกดดันยับยั้งความคิดไม่เคยคลี่คลายปัญหาใด ๆ ได้ แต่กลับจะยิ่งสร้างความเสื่อมพระเกียรติมากกว่าเฉลิมพระเกียรติสถาบันกษัตริย์

ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง เราจึงขอให้ ฯพณฯ ท่านและรัฐบาลโปรดพิจารณาข้อเรียกร้องดังนี้

  1. โปรดยุติการพยายามสร้างมาตรการกดดันปราบปรามที่เข้มงวดยิ่งกว่านี้ ทั้งต่อปัจเจกบุคคล เว็บไซต์และการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ
  2. โปรดพิจารณาข้อเสนอแนะที่เรียกร้องให้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ตกเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งคุกคามผู้อื่น และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายด่างพร้อยต่อชื่อเสียงของประเทศไทยและสถาบันกษัตริย์บนเวทีสากลยิ่งไปกว่านี้
  3. โปรดพิจารณายกเลิก-ถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่กำลังดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ และดำเนินการเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องโทษที่ถูกตัดสินภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก่อนหน้านี้ เนื่องจากคนเหล่านี้ตกเป็นผู้ต้องหาเพียงเพราะการแสดงความคิดเห็น ทั้ง ๆ ที่การแสดงความคิดเห็นไม่ควรเป็นอาชญากรรม

ขอแสดงความนับถือ

ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ร่วมลงนาม (บางส่วน)

*James C. Scott – ศาสตราจารย์ เจมส์ ซี. สก๊อตต์

มีงานเขียนสำคัญหลายชิ้น เช่น The Moral Economy of the Peasant (1990), Weapons of the Weak (1985), Seeing Like a State (1998) เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการศึกษาสังคมชนบท มหาวิทยาลัยเยล สมาชิกของสถาบันการศึกษาชั้นสูงของมหาวิทยาลัยปริ๊นส์ตัน และ Wissenschaftskolleg zu Berlin ประเทศเยอรมันเป็นประธานของสมาคมเอเชียศึกษาระหว่างปี 2540-41 และสมาชิกของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกัน

*Charles F. Keyes – ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ เอฟ. คายส์

นักมานุษยวิทยาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทยที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกา อดีตประธานสมาคมเอเชียศึกษา

*Craig J. Reynolds – เคร็ก เจ. เรย์โนลส์

นักประวัติศาสตร์ที่ได้รับการเคารพนับถืออย่างกว้างขวางในแวดวงวิชาการไทยและนานาชาติ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ไทยศึกษา ออสเตรเลีย ปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย

Robert Albritton – ศาสตราจารย์ โรเบิร์ต อัลบริทตัน

แห่งมหาวิทยาลัยมิสสิสซิปปี้ สหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญด้านการเมืองอเมริกาและนโยบายสาธารณะ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัลบริทตันมีโครงการทางวิชาการเกี่ยวกับประชาธิปไตยไทยร่วมกับสถาบันประชาธิปกหลายโครงการ

Barbara Watson Andaya – ศาสตราจารย์ บาบาร่า วัตสัน อันดายา

นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยฮาวาย อดีตประธานสมาคมเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา

*Arjun Appadurai – อรชุน อัปปาดูรัย

นักคิดและปัญญาชนคนสำคัญทางด้านโลกาภิวัตน์และภาวะสมัยใหม่จากมหาวิทยาลัยชิคาโก ต่อมาเขาย้ายมาเป็นอธิการบดีของ the New School University ในนิวยอร์ค

*Lord Eric Avebury – ลอร์ดเอริค เอฟเบอรี

สมาชิกสภาขุนนาง (สภาสูง) แห่งสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี พ.ศ.2514 ลอร์ด เอฟเบอรีเป็นนักการเมืองจากพรรคเสรีประชาธิปไตย และได้รับแต่งตั้งจากรัฐสภาฯให้ดูแลด้านการต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน เช่น ในประเทศติมอร์ตะวันออก อินโดนิเซีย ทิเบต เปรู ฯลฯ

Peter F. Bell – ปีเตอร์ เอฟ. เบลล์

อดีตผู้อำนวยการสภาการศึกษาเศรษฐกิจ รัฐนิวยอร์ค เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีประสบการณ์การวิจัยในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศในเอเซียตะวันออกฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย

*Walden Bello – ศาสตราจารย์ วอลเดน เบลโล

สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติฟิลิปปินส์ เป็นผู้ก่อตั้งโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา (Focus on the Global South) ในประเทศฟิลิปปินส์และไทย เบลโล เขียนหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาในเอเซียหลายเล่ม รวมทั้งหนังสือเรื่อง “โศกนาฏกรรมสยาม”

Michael Burawoy – ศาสตราจารย์ ไมเคิล บูราวอย

ประธานสมาคมสังคมวิทยาอเมริกา และรองประธานคณะกรรมการสมาคมสังคมวิทยานานาชาติ

*Hilary Charlesworth – ศาสตราจารย์ ฮิลารี่ ชาร์ลส์เวิร์ธ

นักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์การยุติธรรมและการบริหารปกครองนานาชาติ

ชาร์ลส์เวิร์ธได้รับเชิญให้สอนในมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก เช่น ฮาร์วาร์ด มหาวิทยาลัยนิวยอร์ค และมหาวิทยาลัยปารีส และเป็นประธานคนแรกของสมาคมกฎหมายระหว่างประเทศแห่งออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เธอได้รับรางวัล Goler T.Butcher Medal ปี พ.ศ. 2549 จากสมาคมกฎหมายระหว่างประเทศของอเมริกาในฐานะ “ผู้มีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนากฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล”

*Noam Chomsky – ศาสตราจารย์ นอม ชอมสกี

สำหรับคนจำนวนมาก เราอาจไม่ต้องแนะนำนักคิดผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก ชอมสกีคือนักวิชาการผู้ปฏิวัติวงการภาษาศาสตร์และปรัชญา ในอีกด้านหนึ่ง เขาคือนักวิจารณ์นโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ นักคิดและนักเคลื่อนไหวทางสังคมที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในยุคสมัยใหม่ นิตยสาร ไทมส์ เคยระบุว่าเขาเป็นนักวิชาการที่มีอิทธิพลมากที่สุดในศตวรรษที่ 20 ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา งานเขียนของเขาถูกอ้างมากที่สุดในโลก แม้แต่ประธานาธิบดีอูโก ชาเวซแห่งเวเนซุเอลา ยังหยิบหนังสือของเขามากล่าวยกย่องในสุนทรพจน์อันเผ็ดร้อนในการประชุมที่สหประชาชาติเมื่อ 2 ปีก่อน

Arif Dirlik – ศาสตราจารย์ แอริฟ เดอร์ลิค

นักประวัติศาสตร์และมานุษยวิทยาชื่อดังทางด้านจีนศึกษา ต่อมาเขาหันมาสนใจเรื่องโลกาภิวัตน์และวัฒนธรรม อดีตผู้อำนวยการศูนย์ทฤษฎีวิพากษ์และข้ามชาติศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา

*John Dugard – ศาสตราจารย์ จอห์น ดูการ์ด

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ปัจจุบันสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยไลเดน ประเทศเนเธอร์แลนด์ ดูการ์ดดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ระหว่างปี พ.ศ.2545-2551 และเป็นผู้รายงานพิเศษของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ระหว่างปี พ.ศ.2544-2551

Grant Evans – แกรนท์ อีแวนส์

นักมานุษยวิทยาและนักประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บทความล่าสุดของเขาเกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Bangkok Post ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้สังเกตุการณ์ในชุมชนนานาชาติที่ติดตามสถานการณ์ประเทศไทย

Edward Friedman – ศาสตราจารย์ เอ็ดเวิร์ด ฟรีดแมน

นักรัฐศาสตร์ที่เชียวชาญด้านเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ และประชาธิปไตย มีงานเขียนทางวิชาการหลายเล่ม ผลงานล่าสุดเรื่อง “ยักษ์แห่งเอเซีย: เปรียบเทียบจีน กับ อินเดีย”

Susan Stanford Friedman – ศาสตราจารย์ ซูซาน สแตนฟอร์ด ฟรีดแมน

ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน เมดิสัน สหรัฐอเมริกา

*Stuart Hall – ศาสตราจารย์ สจ็วต ฮอลล์ (Stuart Hall)

อดีตผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาวัฒนธรรมร่วมสมัย มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งนิตยสาร New Left Review หนังสือพิมพ์ The Observer ยกย่องให้ฮอลล์เป็น “หนึ่งในนักทฤษฎีด้านวัฒนธรรมระดับแนวหน้าของประเทศอังกฤษ” เขายังเป็นสมาชิกของราชบัณฑิตยสถานอังกฤษ

Gillian Hart – ศาสตราจารย์ จิลเลี่ยน ฮาร์ต

ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเมือง ภูมิภาคศึกษาในอาฟริกาใต้ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

Michael Hertzfeld – ศาสตราจารย์ ไมเคิล เฮิอร์ซเฟลด์

นักมนุษยวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เชี่ยวชาญด้านอัตลักษณ์วัฒนธรรมและไทยศึกษา เฮิอร์ซเฟลด์ เคยเป็นที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการวิชาการของพิพิธภัณฑ์พระปกเกล้า

Kevin Hewison – ศาสตราจารย์ เควิน เฮวิสัน

อดีตประธานมูลนิธิเอเชียยตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์ ออสเตรเลีย และอดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยแห่งฮ่องกง

Paul Hutchcroft – ศาสตราจารย์ พอล ฮัชซ์คร็อฟ

นักรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Sarah Joseph – ศาตราจารย์ ซาราห์ โยเซฟ

ผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายสิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยโมนาช ออสเตรเลีย เธอเขียนหนังสือกฎหมายหลายเล่ม รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

*Ira Katznelson – ศาสตราจารย์ไอร่า แคทซ์เนลสัน

นักรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย อดีตประธานสมาคมรัฐศาสตร์อเมริกัน, ประธานสมาคมรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ เป็นสมาชิกสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกัน และสมาคมนักปราชญ์อเมริกัน

Ben Kerkvliet – ศาสตราจารย์เบน เคิร์กวลีต

อดีตหัวหน้าภาควิชาการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการเมือง มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย

Ben Kiernan – ศาสตราจารย์เบน เคียร์แนน

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องระบบเขมรแดง เป็นผู้ก่อตั้งโครงการศึกษาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชา ซึ่งพัฒนามาเป็นโครงการศึกษาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ มหาวิทยาลัยเยล ที่ครอบคลุมปัญหาความรุนแรงในหลายประเทศทั่วโลก

Smitu Kothari – สมิธุ โคธารี

บรรณาธิการวารสาร Lokayan (การสานเสวนาของประชาชน) ในอินเดีย เขามีบทบาทในขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม และได้รับการยอมรับว่าเป็นปัญญาชน-นักเคลื่อนไหวคนสำคัญของอินเดีย

Margaret Levi – ศาสตราจารย์มาร์กาเร็ท ลีไว

นักรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ สมาชิกของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกัน เคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมรัฐศาสตร์อเมริกัน

*Caroline Lucas – แคโรไลน์ ลูคัส

นักการเมืองที่โดดเด่นมากที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษ เธอเป็นหัวหน้าพรรคกรีนของอังกฤษและเวลส์ สมาชิกรัฐสภาแห่งยุโรป ในปี 2549 นิตยสาร The New Stateman ยกย่องให้เธอเป็นหนึ่งในสิบบุคคลสำคัญแห่งปี และในปีถัดมาได้รับการลงคะแนนจากผู้อ่านของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ The Observer ให้เป็นนักการเมืองแห่งปี

*Senator Francesco Martone – วุฒิสมาชิก ฟรานเชสโก มาร์โตเน

นักการเมืองอิตาลีที่มีบทบาทแข็งขันในปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของโลก เขาเป็นผู้ก่อตั้งและประสานงานโครงการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปธนาคารโลก มีบทบาทในในคณะกรรมาธิการถาวรหลายคณะ ไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการกิจการต่างประเทศและการย้ายถิ่น, การคลัง, และทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อม มาร์โตเน่ยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการของคณะกรรมาธิการพิเศษว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

Duncan McCargo – ศาสตราจารย์ ดันแคน แม็คคาร์โก

จากมหาวิทยาลัยลีดส์ ประเทศอังกฤษ หนึ่งในนักวิชาการชั้นแนวหน้าในเรื่องอุษาคเนย์และการเมืองไทย งานเขียนที่สำคัญของเขา เช่น Network Monarchy of Bhumibol and His Proxiesงานเขียนชิ้นล่าสุดของเขาคือ Tearing Apart the Land เป็นบทวิเคราะห์วิกฤติการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

Frances Fox Piven – ศาสตราจารย์ แฟรนเชส ฟ็อกส์ พิเวน

มีบทบาทโดดเด่นทั้งในด้านวิชาการและกิจกรรมทางสังคม โดยเฉพาะในฐานะนักวิพากษ์ที่มีมุมมองอันเฉียบคมต่อระบบสวัสดิการสังคมในสหรัฐฯ ปัจจุบันเธอสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งเมืองนิวยอร์ค เธอได้รับรางวัลมากมายจากสมาคมด้านวิชาการและสังคมต่าง ๆ และเธอเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมสังคมวิทยาอเมริกัน

*Anthony Reid – ศาสตราจารย์ แอนโทนี่ รีด

นักประวัติศาสตร์ที่มีงานเขียนมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจากเกษียณจากงานที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ณ ลอสแองเจลีส รีดส์ได้รับเชิญให้เป็นผู้อำนวยการคนแรกของสถาบันวิจัยแห่งเอเชีย ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ เขายังได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกของราชบัณฑิตยสถานอังกฤษ และได้รับรางวัลฟูกูโอกะในปี 2545

Dr. Mohamed Suliman – ดร. โมฮัมเหม็ด สุไลมาน

นักวิชาการชาวซูดานที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศอังกฤษ เขาเป็นประธานของสถาบันเพื่อทางเลือกของชาวแอฟริกันในอังกฤษ เขาเขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับความขัดแย้งในซูดาน, ดาร์ฟูร์ และที่อื่น ๆ

David Szanton – เดวิด แชนตัน

เคยเป็นผู้อำนวยการโครงการอาณาบริเวณศึกษาและนานาชาติ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบอร์กลีย์

*Stanley J. Tambiah – ศาสตราจารย์ สแตนลีย์ เจ. แทมไบยาห์

นักมานุษยวิทยาชื่อก้องโลกที่มีผลงานเกี่ยวกับประเทศไทย ศรีลังกา ชนชาติทมิฬ รวมทั้งศาสนาและการเมือง เขาได้รับรางวัลและคำประกาศเกียรติคุณจากสถาบันต่าง ๆ มากมาย เช่น รางวัลบัลซัน (the Balzan), รางวัลฟูกูโอกะ, สถาบันมานุษยวิทยาในพระบรมราชินูปถัมภ์ของประเทศอังกฤษและไอร์แลนด์ และได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกของราชบัณฑิตยสถานอังกฤษ

Andrew Walker – แอนดรูว์ วอล์คเกอร์

นักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย สนใจเกี่ยวกับการค้าชายแดนระหว่างไทย ลาว และจีนใต้ รวมทั้งปัญหาการพัฒนาชนบท การจัดการสิ่งแวดล้อมในภาคเหนือของไทย เขาเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ The New Mandala อันเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ได้รับความนิยมจากปัญญาชนในอุษาคเนย์อย่างมาก

*Immanuel Wallerstein – ศาสตราจารย์ อิมมานูเอล วอลเลอร์สไตน์

เจ้าของทฤษฎี “ระบบโลก” เขาได้รับเชิญให้สอนในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วโลกและได้รับรางวัลและตำแหน่งศาสตราจารย์กิตติคุณจากสถาบันต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งดำรงตำแหน่ง เช่น ผู้อำนวยการของวิทยาลัยการศึกษาชั้นสูงด้านสังคมศาสตร์แห่งปารีส, ประธานสมาคมสังคมวิทยานานาชาติ, ผู้อำนวยการศูนย์เฟอร์นันด์ บรอเดลเพื่อการศึกษาเศรษฐศาสตร์ ในปี 2546 สมาคมสังคมวิทยาอเมริกันได้มอบรางวัลนักวิชาการที่ผลิตผลงานดีเด่น (the Career of Distinguished Scholarship Award) ให้แก่วอลเลอร์สไตน์

Thomas Wallgren – ศาสตราจารย์ โทมัส วอลล์เกร็น

หัวหน้าภาควิชาปรัชญา มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ นักปรัชญาและนักกิจกรรมเพื่อสังคม เขายังเป็นประธานสถาบันเครือข่ายเพื่อการพัฒนาประชาธิปไตยทั่วโลก

Michael Watts – ศาสตราจารย์ ไมเคิล วัทส์

อดีตผู้อำนวยการสถาบันการศึกษานานาชาติ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบอร์คลีย์ , ศูนย์แอฟริกันศึกษา, โครงการนักวิจัยสันติภาพของโรตารี, และโครงการศึกษาด้านการพัฒนา

Thongchai Winichakul – ศาสตราจารย์ ธงชัย วินิจจะกูล

แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน เขาสนใจประวัติศาสตร์ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมไทย หนังสือของธงชัย Siam Mapped ได้รับรางวัลแฮรี เบนดาของสมาคมเอเชียศึกษาในปี 2538 เขายังเป็นสมาชิกของสถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกัน ธงชัยเป็นหนึ่งในผู้นำนักศึกษาในช่วง 6 ตุลาคม 2519

Exit mobile version